โรงเรียนบ้านควนสูง

หมู่ที่ 10 บ้านควนสูง ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84170

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

083 6342944

พืชผัก เผยเคล็ดลับ 9 เหตุผลที่ควรเลือกออร์แกนิกและถูกหลักโภชนาการ

พืชผัก ประการแรก ปลอดภัยกว่าห่างไกลจากยาฆ่าแมลง อาหารอินทรีย์ผลิตจากกระบวนการเกษตรอินทรีย์ อาจรับรองหรือไม่ก็ได้ ปฏิเสธการใช้สารเคมีเกษตรที่อาจเป็นอันตราย ยาฆ่าแมลง 2 ชนิด สารกำจัดวัชพืช และแม้แต่ปุ๋ย นอกเหนือไปจากนี้เกษตรกรจำเป็นต้องป้องกันการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงในแปลงที่อยู่ติดกัน ซึ่งอาจป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ผลิตผลเกษตรอินทรีย์มีสารเคมีตกค้างน้อยลง

ประการที่สอง หลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะและฮอร์โมน สัตว์ที่เลี้ยงในระบบเกษตรอินทรีย์ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต อาหารที่ป้อนจะต้องเป็นอาหารสัตว์อินทรีย์ ผลิตด้วยเทคนิคเกษตรอินทรีย์ ปราศจากสารกันบูด สีผสมอาหารสังเคราะห์ และสารปรุงแต่งต้องห้าม เช่น เนื้อสัตว์ นม หรือไข่ และไม่มีสารสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อการบริโภค

ประการที่สาม อยู่ห่างจากวัตถุเจือปนอาหาร ห้ามใช้สารเคมีสังเคราะห์ในการผลิตอาหารแปรรูปออร์แกนิก อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ไม่ใส่สารกันบูด สี กลิ่นและรส รวมถึงการห้ามใช้วิธีการที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคระหว่างการแปรรูป เช่น การฉายรังสี การหมักด้วยสารเร่ง เป็นต้น ล่องลอย

ประการที่สี่ เลี้ยงสัตว์อย่างมีจริยธรรม การปศุสัตว์ รวมถึงปศุสัตว์ สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ ในระบบเกษตรอินทรีย์จะมุ่งเน้นไปที่สวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ เคารพธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง ไม่มีการกักขังสัตว์ในที่ที่มีประชากรมาก ห้ามเอาอวัยวะออกหรือทารุณกรรมสัตว์ ดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์โดยไม่เร่งการเจริญเติบโตด้วยวิธีการต่างๆ และดำเนินการไปจากธรรมชาติของสัตว์ รักษาสัตว์ให้มีสุขภาพที่ดี เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติและคู่ควรกับความสุขของตัวเอง

ประการที่ห้า มีวิตามินและคุณค่าทางโภชนาการที่ดี จากการปลูกฝังและเลี้ยงสัตว์ตามธรรมชาตินี้ ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง มีวิตามินและสารที่มีประโยชน์ต่อโภชนาการและสุขภาพ เช่น โอเมก้า กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ นอกจากนี้อาหารออร์แกนิกยังมีรสชาติที่ดีกว่าอีกด้วย เป็นธรรมชาติมากกว่าอาหารที่ผลิตโดยระบบเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม อาหารออร์แกนิกผ่านกรรมวิธีน้อยลงโดยใช้สารต่างๆ ในการเร่งการเจริญเติบโตและแม้กระทั่งในการแปรรูป เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารให้ได้มากที่สุด

ประการที่หก เก็บน้ำและดิน หนึ่งในหลักการสำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์คือการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องดินและน้ำ เกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ต้องปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การไม่เผาตอซังป้องกันการพังทลายของหน้าดินกรณีพื้นที่ลาดเอียง ป้องกันปัญหาดินเค็ม

เนื่องจากการจัดการการเพาะปลูกที่ไม่เหมาะสม ทรัพยากรดินได้รับการอนุรักษ์และฟื้นฟู หรือกรณีแหล่งน้ำก็เช่นกันเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ต้องประหยัดน้ำ อย่าให้น้ำมากเกินไป และต้องดูแลไม่ให้น้ำซึมลงดิน หรือบริเวณใกล้เคียงเป็นมลพิษหรือเสื่อมโทรม

ประการที่เจ็ด ความหลากหลายทางชีวภาพ ฟาร์มออร์แกนิกมีพืชและสัตว์หลากหลายชนิดเนื่องจากการใช้ยาฆ่าแมลง หลากหลายมากขึ้นความหลากหลายทางชีวภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นพืชพื้นเมืองที่เป็นทั้งอาหาร ยาและไม้ หรือสัตว์พื้นล่างและเหนือดิน หรือพืช เช่น ไส้เดือน นก ปลา แมลง แม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้บางชนิดอาจเป็นศัตรูพืชก็ตาม แต่ยังมีสัตว์ที่เป็นประโยชน์หลายชนิด เช่น แมงมุม กิ้งก่า กบ ที่ควบคุมศัตรูพืช ความหลากหลายทางชีวภาพนี้ทำให้ฟาร์มออร์แกนิกสามารถต้านทานโรคและแมลงรบกวนได้ เพราะธรรมชาติควบคุมตัวเอง

พืชผัก

ประการที่แปด บรรเทาภาวะโลกร้อน การผลิต การขนส่ง และการใช้ยาฆ่าแมลง โดยเฉพาะปุ๋ย ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนระบบเกษตรอินทรีย์ปฏิเสธการใช้สารเคมีเหล่านี้จึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง นอกจากนี้ วิธีการจัดการเกษตรอินทรีย์ยังส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงด้วย

เช่น การใช้จุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสารอินทรีย์ หรือใช้หยาบในการเลี้ยงปศุสัตว์ ยิ่งไปกว่านั้น ฟาร์มออร์แกนิกยังช่วยแช่แข็งและกักเก็บคาร์บอนอีกด้วย รวมอยู่ในมวลชีวภาพต่างๆ ในรูปของอินทรียวัตถุใต้พื้นดินและเหนือพื้นดิน จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ประการที่เก้า เป็นผลดีต่อเกษตรกรเพราะราคายุติธรรม เกษตรกรที่ผลิตอาหารอินทรีย์สามารถรับประกันราคาสำหรับผลผลิตของตนได้ ราคาประกันถูกกำหนดโดยต้นทุนการผลิต ซึ่งรวมถึงการชดเชยที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ราคาผลผลิตที่ยุติธรรมทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น

ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ปัญหาหนี้สินในท้องถิ่นที่เกษตรกรขายผลิตผลได้ราคาต่ำเมื่อเทียบกับระบบเกษตรกรรมทั่วไปและจมอยู่ในวงจรความยากจน ราคาที่ยุติธรรมสำหรับอาหารออร์แกนิกสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากเป็นอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

พิษภัยจากสารเคมีในการเกษตร แม้ว่าการทำเกษตรอินทรีย์จะเป็นวิธีการผลิตและการบริโภคที่ได้รับความนิยมและยอมรับกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง การรักษาสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างมีสติมากขึ้น ปริมาณผักและผลไม้ออร์แกนิกมีมากขึ้น

แต่ในประเทศไทย โรคของคนเราและอัตราการเกิดโรคจากการบริโภคเป็นแบบสะสม เช่นเดียวกับที่มะเร็งไม่ลดลง การกลับเป็นซ้ำจะพบได้บ่อยแม้ในคนอายุน้อย อีกทั้งสถิติการนำเข้าสารกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้นเกือบทุกปี ยิ่งมีคำถามว่าความเสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษของเราลดลงจริงหรือ

ไม่เพียงแต่เกษตรกรเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีเหล่านี้ ส่งผลต่อสุขภาพเมื่อใช้อย่างเข้มข้นและในปริมาณมากจะทำให้เกิดมลพิษในดิน น้ำ และสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหารของสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่เมื่อคนเรารับประทานอาหารชนิดนั้นเข้าไปส่วนใหญ่ก็จะสะสมอยู่ในร่างกายมนุษย์ แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสารเคมีที่เป็นพิษเหล่านี้ การแสดงอาการขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสารเคมี

ขณะนี้ภาคประชาชนได้ร้องไปยังกระทรวงเกษตรฯ เลิกใช้สารพิษอันตราย 4 ชนิด ได้แก่ คาร์โบฟูราน เมทฟอร์มิน ไดอะฟอส พี และอีพีเอ็น ซึ่งเป็นสารต้องห้ามในหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังคงใช้ในประเทศไทย สารเคมีที่เป็นพิษเหล่านี้ใช้ใน พืชผัก และผลไม้หลายชนิดที่เรารับประทานในชีวิตประจำวัน มาดูอันตรายของสารเหล่านี้กัน ระมัดระวังในการเลือกใช้จ่ายมากขึ้น

อาจเป็นเรื่องน่าเศร้าเล็กน้อยเมื่อพื้นที่การเกษตรของเรายังคงเต็มไปด้วยสารเคมีและอาหารปนเปื้อน ได้แต่เฝ้ารอความหวังว่าสารเคมีพิษเหล่านี้จะหมดไปจากมหาสมุทรแปซิฟิกการเข้าถึงการทำฟาร์มของครอบครัวยังคงรอต่อไปหรือผู้บริโภคอย่างเราจะมีส่วนร่วมได้หรือไม่ อันตรายจากการแพร่กระจายของสารเคมีที่อาจปนเปื้อนในอาหารเป็นที่ทราบกันดีสำหรับคนรอบข้าง และการสนับสนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์จะกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของผู้ผลิตต่อไป และเราจะมีผลิตภัณฑ์อาหารที่ไวต่อสารเคมีตกค้างน้อยลง

บทความที่น่าสนใจ ตั้งครรภ์ การศึกษาเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการตั้งครรภ์แฝด